29 ต.ค. 68

สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2 ร่วมประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการอาหาร (นม) เพื่อเด็กและเยาวชนระดับจังหวัด . วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568 — นางสาวปวิชญา สินน้อย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 มอบหมายให้ นางสาวปุญยนุช ณ รักษา นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ เข้าร่วมประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการอาหาร (นม) เพื่อเด็กและเยาวชนระดับจังหวัด ครั้งที่ 1/2568 เพื่อขับเคลื่อนโครงการฯ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2568 การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการอาหาร (นม) เพื่อเด็กและเยาวชนระดับอำเภอ และคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมี นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุม สำนักงานสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ศาลากลางจังหวัด ชั้น 3 อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี . 📸ภาพ : กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ #สำนักงานสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ดู :7)

29 ต.ค. 68

ศธ. ปรับระเบียบเครื่องแบบพนักงานส่งเสริมความประพฤติฯ สร้างเอกภาพ ยกระดับภาพลักษณ์การปฏิบัติงาน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศใช้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการแต่งกายของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2555 โดยกำหนดให้มีการแต่งกายทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ เครื่องแบบสีกากีคอพับ แบบสูทซาฟารีสีดำ และแบบเสื้อแจ็กเก็ตแขนยาวสีดำ และเครื่องหมายสัญลักษณ์พนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งกำหนดใช้มาเป็นเวลา 12 ปี ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายและข้อสั่งการเรื่องความปลอดภัยในและนอกสถานศึกษา ภายใต้แนวทางเรียนดี มีคุณธรรม ให้สถานศึกษาต้องเป็นสถานที่ปลอดภัย และเฝ้าระวังการใช้ความรุนแรงทั้งในและ นอกสถานศึกษาที่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจของนักเรียน นักศึกษา โดยผ่านกลไกการขับเคลื่อนงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา (พสน.) ที่ต้องทำหน้าที่ในการเฝ้าระวัง ตรวจ ติดตามความประพฤติของนักเรียน นักศึกษา ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ตามมาตรา 66 และมาตรา 67 ให้มีความเข้มแข็ง และบูรณาการการทำงานร่วมกันกับทุกหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ชุมชนและผู้ปกครอง ในการดูแลความปลอดภัยของนักเรียนและนักศึกษา ที่มีอยู่ในสองมิติ คือ การคุ้มครองความประพฤติของนักเรียนนักศึกษา และสิทธิเด็กและเยาวชน ซึ่งทั้งสองภารกิจนี้ เป็นบทบาทโดยตรงของสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จึงเป็นการสมควรให้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการแต่งกายของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2555 รวมทั้งกำหนดให้มีเข็มของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา และบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา เพื่อใช้ประดับบนเครื่องแบบพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา และแสดงตน เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ มีระเบียบ และเหมาะสมมากยิ่งขึ้นกับการปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมายว่าด้วยคุ้มครองเด็ก และปรับปรุงระเบียบเข็มเสมาพิทักษ์ เพื่อเป็นการยกย่อง เชิดชูเกียรติสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาที่มีผลงานดีเด่นเป็นการพัฒนาตนเอง พัฒนางานให้มีมาตรฐาน และเป็นแบบอย่างที่ดี รวมถึงเกิดความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จึงประกาศใช้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบและการแต่งกาย เครื่องหมายของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา รวมถึงประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง บัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา ที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน มีเอกภาพ และเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน ดังนี้ 1. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบและการแต่งกายของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2568 2. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเข็มของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2568 3. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเข็มเสมาพิทักษ์ พ.ศ. 2568 4. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง บัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2568 (ดู :7)

29 ต.ค. 68

สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2 จัดกิจกรรม ขยับกายขยายสมอง เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความสามัคคีในองค์กร . วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568 — สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 นำโดยนางสาวปวิชญา สินน้อย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 และรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ฯ พร้อมด้วยบุคลากรในสังกัด ร่วมกิจกรรม ขยับกายขยายสมอง ณ ห้องประชุมไชยชนะวดี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 ก่อนการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมได้ยืนสงบนิ่ง เพื่อแสดงความอาลัยถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ลดความเครียดจากการทำงาน สร้างความสามัคคี และบรรยากาศการทำงานที่มีความสุข เพื่อให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนภารกิจของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในครั้งนี้ กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ร่วมกับ กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา เป็นผู้นำกิจกรรม (ดู :8)

28 ต.ค. 68

สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2 ประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) . วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568 — สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566–2570) โดยมี นางสาวปวิชญา สินน้อย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม ก่อนเริ่มการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมได้ยืนสงบนิ่ง เพื่อแสดงความอาลัยถวายแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ การประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 – 29 ตุลาคม 2568 ณ ห้องประชุมไชยชนะวดี โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการกลุ่ม/หน่วย บุคลากรในสำนักงาน ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา และผู้แทน ก.ต.ป.น. รวมทั้งสิ้น 34 คน การประชุมดังกล่าวจัดโดย กลุ่มนโยบายและแผน มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนและปรับปรุงแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566–2570) ให้สอดคล้องกับบริบทและนโยบายการศึกษาปัจจุบัน อีกทั้งเพื่อส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ซึ่งจะเป็นการเตรียมความพร้อมในการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ให้มีคุณภาพและสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม . ภาพเพิ่มเติม : https://drive.google.com/drive/folders/10STfuS5i8XH2VCY0eJITZNL5Aoqstplm?usp=sharing (ดู :8)

27 ต.ค. 68

เคลียร์ชัด ! “รมว.นฤมล” เรียกถกผู้บริหาร ศธ. กำหนดแนวทางอาลัย “สมเด็จพระพันปีหลวง” ย้ำ จัดกิจกรรมของเด็ก งานศาสนา–ประเพณีได้ แต่ขอให้งดหรือปรับงานรื่นเริงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประชุมผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 1/2568 เพื่อพิจารณาแนวทางการปฏิบัติแสดงความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีผู้บริหารกระทรวงฯ เข้าร่วม อาทิ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และนายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ณ กระทรวงศึกษาธิการ จากนั้น ศ.ดร.นฤมล แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันว่า กิจกรรมที่ประชาชนมีความห่วงใยและหวังดีกับเด็กนักเรียนนั้น สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการอยู่แล้ว โดยกิจกรรมที่อยู่ในหลักสูตร รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการของเด็ก หรือกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่เป็นประโยชน์ต่อตัวนักเรียน กระทรวงไม่ได้มีคำสั่งห้ามจัดหรือให้งดอย่างแน่นอน ส่วนกิจกรรมที่เป็นไปตามประเพณีวัฒนธรรมของชนชาติ หรือศาสนาใด ก็ยังสามารถดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ จากนี้ผู้บริหารสูงสุดของแต่ละหน่วยราชการในสังกัด รวมถึงองค์กรในกำกับ จะไปทำความเข้าใจกับผู้บริหารในระดับถัดไปให้ตรงกัน ส่วนกิจกรรมที่มีลักษณะรื่นเริงนอกเหนือจากหลักสูตร ขอความร่วมมือให้งดหรือปรับรูปแบบการดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ข้อถกเถียงในสังคมเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ และวันอาทิตย์ก็มีพระราชพิธี จึงยังไม่ได้มีการประชุมภายในกระทรวง วันนี้จึงได้เรียกประชุมเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันทุกฝ่าย โดย ศธ.จะออกประกาศแนวปฏิบัติที่ชัดเจนและรายละเอียดต่าง ๆ ไปยังแต่ละหน่วยราชการและองค์กรในกำกับ โดยยึดกรอบแนวทางปฏิบัติ 3 เรื่องหลัก คือ 1. กิจกรรมภายในหลักสูตร และกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่มีผลดีต่อพัฒนาการของเด็ก สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ไม่ห้ามและไม่งด 2. กิจกรรมที่เป็นไปตามประเพณีและวัฒนธรรม ของชนชาติหรือศาสนาใดก็ตาม สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ไม่ห้ามและไม่งด 3. กิจกรรมที่มีลักษณะรื่นเริง ที่อยู่นอกเหนือข้อ 1 และ 2 ให้แต่ละหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาว่าจะปรับรูปแบบอย่างไรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ “ดิฉันขอให้ทุกท่านคลายความกังวล และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความห่วงใยต่อพัฒนาการของเยาวชน ในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ดิฉันให้ความสำคัญกับเรื่องการพัฒนาการเด็กเป็นอย่างมาก ซึ่งการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการจะสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทยที่ได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ แล้ว” ศ.ดร.นฤมล กล่าว นวรัตน์ รามสูต: สรุป/เรียบเรียง กิตติกร, ทิพย์สุดา: ถ่ายภาพ ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี: กราฟิก กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานรัฐมนตรี ศธ.: รายงาน 27/10/2568 (ดู :27)